วันอังคารที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

สี่เผ่าไทศรีสะเกษ

                       
 
“ เมืองขุขันธ์ ” ในอดีตเป็นชุมชนเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ เป็นทางผ่านของเส้นทางการสร้างปราสาทมาตั้งแต่สมัยอาณาจักรฟูนัน (Funan) อาณาจักเจนละ (Zhenla)และ อาณาจักขอม (Khmer) ในสมัยเมืองพระนครคือ นครวัด- นครธม เป็นเส้นทางมิตรภาพระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เดินทางไปมาหาสู่กันจากดินแดนแห่งทะเลสาบ มายังภาคอีสานของประเทศไทยตลอดมา
เมืองขุขันธ์ หรือพื้นที่ซึ่งเป็นอาณาเขตส่วนใหญ่ของจังหวัดศรีสะเกษ ในปัจจุบัน มีบรรพบุรุษของชนเผ่าที่อาศัยอยู่ร่วมกันก่อตั้งเป็นเมืองขุขันธ์ มีประวัติความเป็นมา และขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนาน
ประกอบด้วย 4 ชนเผ่า ดังนี้
  
ชนเผ่ากูย หรือ ส่วย
 ชาวกูยหรือ ส่วย เป็นชนเผ่าที่ชอบความเป็นอิสระ และมีพัฒนาการของชนเผ่าอยู่เสมอ ชาวกูยในจังหวัดศรีสะเกษ เชื่อว่าอพยพมาจากเมืองลาวและกัมพูชา ได้มาตังถิ่นฐานในดินแดนแถบนี้หลายแห่งกระจัดกระจายกันไป แต่ที่จังหวัดศรีสะเกษส่วนหนึ่งเข้าใจว่ามาตั้งถิ่นฐานที่บ้านเจียงอี (ภาษากูย "เจียง" แปลว่า ช้าง "อี" หรือ "เอ็ย" แปลว่าป่วย เจียงอี แปลว่า ช้างป่วย) ชาวกูยจะมีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งอยู่ 3 อย่าง พวกที่เชี่ยวชาญการจับจ้าง เรียก กูยดำเร็ย (ดำเร็ยภาษาเขมรแปลว่าช้าง)เช่น ชนเผ่ากูยในตำบลปรือใหญ่ อำเภอขุขันธ์ พวกที่เชี่ยวชาญในการถลุงเหล็กและตีเหล็ก เรียก กูยแดก (แดก ภาษาเขมรแปลว่าเหล็ก) เช่น ชนเผ่ากูยบ้านตะเคียนช่างเหล็ก ตำบลตะเคียน อำเภอขุขันธ์ และชนเผ่ากูยที่มีความชำนาญในการปั้นหม้อ เรียก กูยฉนัง (ฉนัง ภาษาเขมรแปลว่า หม้อ) เช่น
ชนเผ่ากูยบ้านกระโพธิ์ช่างหม้อ ตำบลตะเคียน อำเภอขุขันธ์ เป็นต้น
ชนเผ่ากูย จะเรียกตนเองว่า กูย แปลว่า “คน หรือ มนุษย์” อาศัยอยู่กันหลายอำเภอในจังหวัดศรีสะเกษ    ประเพณีของเผ่ากูย ส่วนมากจะปรับตัวให้เข้าไปกับท้องถิ่นที่อยู่อาศัย แต่จะยังคงมีอยู่บ้าง เช่น การเซ่นบรรพบุรุษ พิธีไหว้ศาลปะกำ หรือการเซ่นไหว้ผีปะกำ การตั้งศาลผีบรรพบุรุษไว้ที่หิ้งหรือศาล
 
 
ชนเผ่าเยอ
มีประวัติเล่าว่า พญากตะศิลา เป็นหัวหน้านำคนเผ่าเยอ อพยพคนมาจากเมืองอัตปือ แสนปาง มาตั้งอยู่ที่เมืองคง (อ.ราษีไศลในปัจจุบัน) ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำมูลที่มีความอุดมสมบูรณ์ ต่อมามีการย้ายถิ่นฐานไปอยู่ตามที่ต่างๆในจังหวัดศรีสะเกษมีชาวเยอ อาศัยอยู่ในบางพื้นที่น้อยมาก เช่นที่ตำบลจะกง ตำบลกฤษณา และตำบลลมศักดิ์ อำเภอขุขันธ์ ในปัจจุบัน
 
ชนเผ่าลาว
ชนเผ่าลาวในจังหวัดศรีสะเกษ เชื่อว่าอพยพมาจากประเทศลาวในปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ. 2237 เกิดกบฏ ในนครเวียงจันทร์ ทำให้ชนเผ่าลาวแย่งอำนาจกันเอง ฝ่ายหนึ่งต้องลี้ภัยลงมาทางใต้ที่นครจำปาศักดิ์แล้วตั้งต้นปกครองตนเองครอบคลุมพื้นที่ลงมาถึงลุ่มน้ำมูล และในปี พ.ศ. 2321 พระเจ้ากรุงธนบุรีโปรดให้สมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึกยกทัพมาสมทบกับตากะจะ เจ้าเมืองขุขันธ์ ไปตีเมืองเวียงจันทร์ได้กวาดต้อนชนเผ่าลาวมาด้วย
ชนเผ่าลาวมีอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษ ส่วนมากจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัด สำหรับอำเภอขุขันธ์ พบอาศัยอยู่มากในพื้นที่ของตำบลโสน ตำบลห้วยเหนือ และตำบลตาอุด มีขนบธรรมเนียมประเพณีคล้ายกันกับประเพณีชนเผ่าลาวของชาวอีสานทั่วไป
 
ชนเผ่าเขมร
ตามประวัติ เชื่อว่าดินแดนที่ตั้งของจังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบันเป็นที่อยู่ของขอม หรือชนเผ่าเขมรมาก่อน เมื่อ พ.ศ. 236 พระพระเจ้าอโศกมหาราชผู้ทรงปกครองประเทศอินเดียในสมัยนั้นได้จัดคณะพระธรรมทูตออกเป็น 9 คณะโดยคณะที่ 8 มี พระโสณะและพระอุตตระเป็นหัวหน้าคณะมาเผยแผ่พุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ ได้มาถึงอาณาจักรขอมโบราณซึ่งเรียกว่า อาณาจักรฟูนัน มีอำนาจอยู่ในคาบสมุทรอินโดจีน ต่อมาไทยได้ขยายอิทธิพลมาครอบคลุมบริเวณแถบนี้ ชนเผ่าเขมรจึงถอยร่นไปอยู่ในดินแดนประเทศกัมพูชาปัจจุบัน และยังมีชนเผ่าเขมรอาศัยอยู่ในจังหวัดแถบอีสานใต้จำนวนมากอยู่ในเขตตอนใต้ของจังหวัดศรีสะเกษอีกด้วย
ชนเผ่าเขมรจะเรียกตัวเองว่า ขะแมร์ อาศัยอยู่ในหลายอำเภอ แทบทุกตำบล เผ่าเขมรมีวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง เช่นประเพณีแซนโฎนตา เป็นประเพณีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของชนเผ่าเขมร ซึ่งเป็นงานประเพณีที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปีของของอำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ
 
 อ้างอิง
 
 
 














 


 


 
 
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น