วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ฮีฟีสทัส เทพโอลิมเปียนครองการช่างโลหะ

 
วัลแคน เป็นเทพโอลิมเปียนครองการช่างโลหะ เรียกตามชื่อกรีกว่า ฮีฟีสทัส (Hephaestus) มีประวัติกำเนิดเล่าแตกต่างกันเป็น 2 นัย

นัยหนึ่งว่าเป็นเทพบุตรของเจ้าแม่ฮีรากับเทพปรินายกซูสโดยตรง แต่อีกนัยหนึ่งว่าฮีฟีสทัสถือกำเนิดแต่เจ้าแม่ฮีรา ทำนองเทวีเอเธน่าเกิดกับซูสฉะนั้น คือผุดขึ้นจากเศียรของเจ้าแม่โดยลำพังตนเอง ทั้งนี้เนื่องด้วยเจตจำนงของเจ้าแม่ฮีราที่ ต้องการจะแก้ลำซูสในการกำเนิดของเทวีเอเธน่าให้เทพทั้งปวงเห็นว่าเมื่อซูสทำให้เทวีเอเธน่าเกิดเองได้ เจ้าแม่ก็สามารถทำให้ ฮีฟีสทัสเกิดเองได้เช่นกัน

แต่ถึงกำเนิดของเทพฮีฟีสทัสจะเป็นประการใด ก็ต้องนับว่าฮีฟีสทัสเป็นเทพบุตรของซุสด้วยเช่นกัน หากมีข้อควรกล่าวก็ คือว่า ฮีฟีสทัส "ติดแม่" มากกว่า "ติดพ่อ" และเข้ากับ "แม่" ทุกคราวที่ "พ่อแม่ทะเลาะกัน" ตามประสา "ผัวเจ้าชู้" กับ "เมียขี้หึง" ทั่วไป ในคราวหนึ่งซูสประสงค์จะลงโทษเจ้าแม่ฮีราให้เข็ดหลาบ เอาโซ่ทองล่ามเจ้าแม่แขวนไว้กับกิ่งฟ้าห้อยโตงเตง อยู่ ดังนั้นฮีฟีสทัสก็เข้าช่วย เจ้าแม่ พยายามแก้ไขโซ่จะให้เจ้าแม่เป็นอิสระ ซูสบันดาลโทสะ จึงจับฮีฟีสทัสขว้างลงมาจากสวรรคโลก

ฮีฟีสทัสตกจากสวรรค์เป็นเวลาถึง 9 วันจึงลงมาถึงมนุษย์โลก ณ เกาะเลมนอสในทะเลเอจีน และเนื่องในการตกครั้งนี้ เธอจึงมีบาทแปเป๋ไปข้างหนึ่งตั้งแต่นั้น มา แต่ทั้งที่เธอต้องพิการเช่นนั้นด้วยหมายจะช่วยมารดา เจ้าแม่ฮีราผู้เป็นมารดาก็หาแยแสเหลียวแลเธอไม่ ฮีฟีสทัสเทพบุตรบังเกิดความโทมนัสซ้ำเติมอย่างแสนสาหัสใน ความเฉยเมยของเจ้าแม่ ถึงแก่ตั้งปณิธานว่าจะไม่กลับขึ้นไปบนเขาโอลิมปัสอีก เธอจึงสร้างวังประทับอยู่ในเกาะเลมนอสและตั้งโรงหล่อเพลิดเพลินในการช่างฝีมือประกอบ โลหะนานาชนิด โดยมีพวกยักษ์ไซคลอปส์เป็นลูกมือ และเพื่อจะแก้ลำความเมินเฉยของมารดา เธอจึงสร้างบัลลังก์ทองคำเปล่งสะพรั่งพร้อมด้วยลวดลายสลักเสลาอย่างหาที่ เปรียบมิได้ขึ้นตัวหนึ่ง เป็นบัลลังก์กลประกอบด้วยลานกลไกซ่อนอยู่ข้างใน ส่งขึ้นไปถวายเจ้าแม่ฮีรา เจ้าแม่ยินดีในรูปลักษณะอันแสนงามของบัลลังก์กล สำคัญว่าเป็นของ บุตรถวายโดยซื่อ พอขึ้นประทับเครื่องกลไกที่ซ่อนอยู่ก็ดีดกระหวัดรัดองค์เจ้าแม่ตรึงติดกับบัลลังก์อย่างมั่นคง จนไม่สามารถแม้แต่จะขยับเขยื้อนองค์ แม้เทพทั้งปวงจะรวม กำลังกันเข้าแก้ไขก็จนปัญญา ไม่มีทางปลดเปลื้องพันธนาการให้หลุดออกไปได้

เมื่อเหนือกำลังทวยเทพดังนั้น เฮอร์มีส เทพผู้มีลิ้นทูต จึงอาสามาเกลี้ยกล่อมวอนง้อขอให้ฮีฟีสทัสขึ้นไปช่วยแก้แต่ "ลิ้นทูต" ของเฮอร์มีสกลับกลายเป็น "ลิ้นถึก" ในกรณีนี้ แม้เธอจะหว่านล้อมด้วยความคมขำไพเราะสักเพียงใด ก็ไม่อาจชักจูงฮีฟีสทัสให้ขึ้นไปบนเขาโอลิมปัสได้

ทวยเทพประชุมปรึกษากันอีกวาระหนึ่ง มองไม่เห็นใครนอกจากเทพไดโอนิซัส จะช่วยได้ จึงเห็นชอบพร้อมกันส่งไดโอนิซัสลงมาเกลี้ยกล่อมเทพฮีฟีสทัสด้วย อุบาย คือใช้วิธีมอมฮีฟีสทัสด้วยน้ำองุ่นจนฮีฟีสทัสเคลิบเคลิ้มมึนเมา แล้วไดโอนิซัสก็พาฮีฟีสทัสขึ้นไปแก้เครื่องกลพันธนาการให้เจ้าแม่ฮีราเป็นอิสระจนได้ ใช่แต่เท่านั้น เธอยังช่วยไกล่เกลี่ยให้เทพบิดามาดรและเทพบุตรออมชอมเข้ากันได้ดังปกติอีกด้วย

แต่ทั้งที่ได้รับความยกย่องโปรดปรานเทียมเท่าเทพองค์อื่น ๆ ในคณะเทพโอลิมเปียนแล้วเช่นนั้น ฮีฟีสทัสก็ไม่ยินดีที่จะอยู่บนเขาโอลิมปัสเป็นประจำ จะขึ้นไปก็เฉพาะคราวประชุมเทพสภาและในวาระอื่น ๆ เท่านั้น ในยามปกติเธอคงขลุกอยู่ในโรงหล่อ และหมกมุ่นง่วนกับงานช่างของเธอเป็นนิตย์ จะเปรียบเธอก็เป็น พระเวสสุกรรมของกรีก เพราะการสร้างวังที่ประทับของเทพแต่ละองค์บนเขาโอลิมปัสนั้นเป็นพนักงานของ เธอทั้งสิ้น นอกจากนี้เธอยังเป็นผู้ออกแบบประกอบเครื่องตกแต่งตำหนักต่าง ๆ ด้วยโลหะประดับมณีแวววาว จับตา และประกอบอสนีบาตเป็นอาวุธถวายแก่ซูส กับศรรักให้อิรอส
 



      
 
คงเพราะความน่าสงสารอย่างนี้ ถึงเทพฮีฟีสทัสจะไม่รูปงามเท่าเทพเจ้าองค์อื่นๆ แต่ยังมีคุณค่าเพราะเอาดีทางการช่าง พระองค์จึงได้รับการยกย่องจากปวงเทพ เทพซีอุสผู้เป็นบิดาคงสงสารพระโอรสพระองค์นี้มาก จึงประทานเทพีอโฟรไดทิที่มีความงามให้เป็นชายา นี้ละเป็นข้อดีของเทพฮีฟีสทัสที่ได้พระชายาสวย แต่ความสวยของเทพีอโฟรไดทิกลับเป็นพิษ เมื่อเทพแอรีสพระเชษฐาของเทพฮีฟีสทัสที่สง่างามกว่ารูปงามกว่ามาเล่นชู้กับชายาน้องชายตน เทพฮีฟีสทัสน่าสงสารอีกแล้วถึงพระชายาสวมเขา เทพีอโฟรไดทิให้กำเนิดเทพบุตรอีรอส แต่เทพฮีฟีสทัสยังคิดว่าเป็นพระโอรสของพระองค์จึงสร้างธนูทองคำพร้อมลูกศรให้
แต่ความลับนี้พระองค์ก็ยังไม่ทรงทราบอยู่ดีจนในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อเทพอะพอลโลพบเห็นเทพีอโฟรไดทิเล่นชู้กับเทพแอรีสคาเตียง เทพอะพอลโลจึงมาบอกแก่เทพฮีฟีสทัส พระองค์คราวนี้โกรธกริ้วมาก พระองค์โง่มาโดยตลอด พระองค์จึงสร้างตาข่ายทองคำขึ้นและแอบไปยังวิมานของเทพแอรีส และพบว่าทั้งสองยังคงนอนหลับด้วยกัน เทพฮีฟีสทัสโยนตาข่้ายคุมทั้งสองและลากไปยังลานกว้างแห่งโอลิมปัสและประกาศประจาญให้ทวยเทพรับรู้ เทพแอรีสอับอายเป็นอันมาก เทพีอโฟรไดทิก็เช่นกัน แต่ถึงอย่างไรพระชายาพระองค์นี้ก็เล่นชู้ไปทั่วในบรรดาเทพเจ้าและมนุษย์ กลายเป็นตำนานเทพเจ้าที่มีรูปรสกลิ่นเสียงมากที่สุดตำนานหนึ่ง

แต่มีคนวิจารณ์ว่าทำไมเทพซีอุสที่เจ้าชู้นักหนาไม่เก็บเทพีอโฟรไดทิไว้ แต่กลับมาให้เป็นพระชายาแห้งเทพฮีฟีสทัสผู้เป็นพระโอรส บางคนว่า ความจริงเทพซีอุสจะเอานางเป็นชายาแต่ถูกเทพีปฏิเสธพระองค์จึงคิดจะแก้เผ็ดเทพีจึงยกให้เป็นพระชายาแก่เทพที่พิการและอัปลักษณ์เป็นการลงโทษนั่นเอง (ร้ายเหมือนกันนะนี้ใครว่าเทพซีอุสไม่ร้าย นี้แจ้งแถลงไขแล้วมิใช่มีเทพีเฮร่าผู้เดียวที่ร้ายต่อเทพฮีฟีสทัสปรากฏว่าร้ายหมดนั่นเละ เทพฮีฟีสทัสเป็นเทพเจ้าที่น่าสงสารที่สุดในบรรดาเทพเจ้ากรีก)
 
 
อ้าอิง
 
http://writer.dek-d.com/chanin34/story/

 http://greeknaru.blogspot.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น